อัพเดทล่าสุด
บทความปิงปอง

เทเบิลเทนนิส ประวัติความเป็นมาของเทเบิลเทนนิส ประวัติเทเบิลเทนนิสในประเทศไทย

ปิงปอง

เทเบิลเทนนิส หรือที่รู้จักกันว่า ปิงปอง เป็นกีฬาที่เหมือนกับว่า จะเป็นกีฬาที่ดูเผินๆว่า แค่โต้กันไปมา ไม่ได้เล่นยากแต่ เสนห์ของกีฬาชนิดคือ จังหวะการโต้ไปโต้มาของนักกีฬา ทั้ง 2 ฝั่ง ที่ผลัดกันตีลูกปิงปองด้วยความไว มีประสาทสัมผัสที่รวดเร็ว ทักษะในการอ่านเกมของคู่แข่ง ที่ต้องอ่านใจทั้งคู่ว่า จะตีไปฝั่งไหน และ จะตีลูกยังไงให้ได้แต้ม โดยการแข่งกีฬา เทเบิลเทสนิส มีทั้งแบบทีม และ แบบเดี่ยว แบบทีมนั้นจะแบ่งฝั่งละ 2 คน และ มี 4 คนอยู่ในสนามปิงปอง 

ประวัติปิงปอง หลักฐานที่แน่ชัดในกีฬาชนิดนี้นั้นยังมีไม่ค่อยชัด แต่ที่จากการค้นคว้า กีฬาปิงปอง นั้นมาจากประเทศอังกฤษ ตั้งแต่ปี 1890 เริ่มจากการใช้อุปกรณ์ ไม้มาหุ้มหนังสัตว์ และ เผยแพร่มาเรื่อยๆในยุโรป ซึ่งตอนที่เล่นครั้งแรกใช้ชื่อว่า “ปิก ป๊อก” และเรียกต่อมาเรื่อยๆจนกลายมาเป็น “ปิง ปอง”

เริ่มเข้ามาตั้งตอนปี พ.ศ.2500 และ จัดตั้งสมาคมเทเบิลเทนนิสแห่งประเทศไทย และ เริ่มจัดการแข่งขันภายในประเทศขึ้น ตั้งแต่ระดับเยาวชน จนถึงระดับมืออาชีพ และ ให้ทุกโรงเรียนมีการจัดหลักสูตรสอนเข้าไปใน วิชาพละศึกษา เพื่อเพิ่มทักษะให้นักเรียน

วิธีการเล่น เทเบิลเทสนิส

สมัยก่อนมีวิธีการเล่น ปิงปอง สมัยก่อนจะเป็นการเล่นแบบ BLOCKING (แบบยัน) และ PUSHING (แบบดันกด) ต่อมาพัฒนาเปลี่ยนจาก PUSHING มาเป็นแบบ CROP (การเล่นถูกตัด) และ การจับไม้ส่วนใหญ่จะมี 2 แบบคือ แบบสากล SHAKE HAND และ แบบจีนจับปากกา CHINESE STYLE

การจับไม้ เทเบิลเทสนิส

  1. แบบสากล SHAKE HAND

คือการจับไม้ ปิงปอง แบบทั่วไปโดยรูปการจับจะถือในลักษณะ กำ หรือ จับไปที่ด้ามไม้ ปิงปอง โดยตรง เป็นที่นิยมกันทางฝั่งยุโรป เหมาะสำหรับผู้ที่เริ่มเล่นใหม่ 

  1. แบบจีนจับปากกา CHINESE STYLE

การจับแบบจีน หรือ แบบปากกา จะเป็นการจับที่เป็นเฉพาะทาง โดยจะใช้การจับไม้เป็นรูปแบบคล้ายๆ กับ การจับปากกา จับให้ไม้ปิงปองอยู่ในลักษณะคว่ำลง มีนิ้วชี้ และ นิ้วโป้งเป็นที่ยึดจับไม้ และ กำนิ้วที่เหลือไว้เพื่อประคองไม้ ข้อดีในการจับแบบจีน คือ ตีลูกได้รุนแรง และ เร็ว แต่ข้อเสียคือ เกมรับที่จะสามารถเล่นได้ด้านเดียว

กติกาการเล่นเทเบิลเทนนิส และ วิธีการเล่นเทเบิลเทนนิส ทำความรู้จักกการเล่นกีฬาเทเบิลเทนนิสเบื้องต้น โดยวิธีการเล่นเทเบิลเทนนิส มีดังนี้

1.ผู้เสิร์ฟคนแรกจะใช้การโยนเหรียญ

2.ผู้เล่นที่ทำคะแนน 11 คะแนนก่อน จะเป็นผู้ที่ชนะในไปในเกมรอบนั้นทันที

3.สลับฝั่ง ทุกครั้งเมื่อจบรอบนั้น

4.กรณีที่ผู้เล่นคะแนนเท่ากัน 10 คะแนน ทั้งสองต้องแข่งกัน ใครที่ทำคะแนนได้ก่อน 2 คะแนน จะเป็นผู้ชนะในรอบนั้น

5.กรณีที่มีการเสิร์ฟ ผู้เสิร์ฟ ต้องเสิร์ฟด้วยวิธีหงายมือ และ ลูกปิงปองต้องถูกโยนลอยขึ้นสูงไม่ต่ำกว่า 6 นิ้ว

6.การเกมสุดท้าย ฝ่ายรับ ต้องเปลี่ยนฝั่ง หากฝั่งใดฝั่งหนึ่งทำคะแนนนำได้ก่อน 5 คะแนนขึ้นไป


โดย กติกาเทเบิลเทนนิส 28 ข้อ อ่านเพิ่มเติม 

อุปกรณ์การเล่น ปิงปอง ต้องมีดังนี้

โต๊ะเทเบิลเทนนิส

โต๊ะเทเบิลเทนนิสมาตรฐานมีความยาวกี่เมตร ?  และ โต๊ะเทเบิลเทนนิส มีขนาดเท่าใด ? โต๊ะเทเบิลเทนนิส มีลักษณะ สี่เหลี่ยมผืนผ้า ยาว 2.74 เมตร กว้าง 1.525 เมตร สูงจากพื้น 76 เซนติเมตร มาตรฐานสากลต้องได้รับการรับรองจาก สหพันธ์เทเบิลเทนนิสนานาชาติิ

เน็ต

เป็น “ตาข่าย” ที่เอาไว้ขึงตรงกลางขนานกับเส้นของโต๊ะ ปิงปอง จะยึดติดอยู่กับเสาขอบโต๊ะ สูงจากโต๊ะไม่เกิน 15 เซนติเมตร ข้างล่างตาข่ายจะ ขนานไปกับขอบโต๊ะ ปิงปอง 

ลูกปิงปอง

จะต้องมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตร มีน้ำหนัก 2.7 กรัม ต้องจัดทำด้วยวัสดุที่เป็น เซลลูลอยด์ หรือ วัสดุที่เป็นพลาสติก โดยจะต้องมีสีที่กำหนดไว้ คือ สีขาว สีเหลือง หรือ สีส้ม อ่า

ไม้ปิงปอง

ไม้ จะต้องมีลักษณะ แบนเรียบ และ แข็ง ที่ทำมาจากไม้ วัสดุที่มาจากหน้าไม้จะต้องเป็น คาร์บอนไฟเบอร์ , กลาสไฟเบอร์ ความหนา ไม่เกิน 0.35 มิลลิเมตร ส่วนวัสดุที่ปิดหน้าไม้อีกชั้นจะต้องเป็นลักษณะ ยางแผ่นปิดทับหน้าไม้ ความหน้า ไม่เกิน 2 มิลลิเมตร และความหนารวมกัน 2 ชั้นไม่เกิน 4 มิลลิเมตร โดยหน้าไม้จะต้อง ด้านหนึ่งต้องเป็นสีแดง และอีกด้านต้องเป็นสีดำ ที่ไม่สะท้อนแสง

ทักษะที่ได้จากการเล่น กีฬาปิงปอง

1.ทักษะการฝึกสมอง เพราะ เนื่องจาก ปิงปอง เป็นกีฬาที่ต้องใช้ความคิดในการคาดเดาคู่แข่ง และ คิดว่าจะตีไปทางไหน ทำอย่างไรถึงจะชนะได้ 

2.ทักษะความไว ความคล่องตัว เพราะ ปิงปอง ต้องใช้ทักษะความไว ที่ต้องใช้รวมถึงความยืดหยุ่น ในการพลิกตัว กลับตัวเพื่อรับลูก และ ตอบสนองคู่แข่ง

3.ทักษะในการใช้ข้อมือ เพราะ มือเป็นส่วนสำคัญ ในการเล่นกีฬาชนิดนี้เรียกได้ว่า เป็นหัวใจในการเล่น ปิงปอง สิ่งที่ได้รับคือ ความไวของข้อมือ ความคล่องแคล่ว ในการตบลูกปิงปอง

3.ทักษะประสาทความไวของสายตา ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า กีฬาปิงปอง เป็น กีฬาประเภทที่ต้องใช้ประสาทความวัยของตาเป็นอย่างมาก เพราะ ต้องใช้สายตาในการจ้องมองลูกปิงปองอยู่ตลอดเวลา และ จ้องมองคู่ต่อสู้อยู่ตลอดเวลา ว่าเขาจะทำอะต่อไป

ประโยชน์ของกีฬาเทเบิลเทนนิส

ประโยชน์ของกีฬาเทเบิลเทนนิส ณ ปัจจุบัน กีฬาปิงปองเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เป็นกีฬาที่ใช้ทักษะในการเล่น หลากหลายทั้ง ร่างกาย สติปัญญา ประสาทสัมผัส และ ไหวพริบ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ต้องใช้ในการเล่นกีฬาปิงปอง

-ช่วยเสริมกล้ามเนื้อ ความยืดหยุ่น ให้กับร่างกาย การเล่นกีฬาปิงปอง เป็นกีฬาที่ต้องเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อแทบทุกส่วน สำหรับมือใหม่แน่นอน

-ช่วยพัฒนาในการฝึกสมาธิ แน่นอนว่าทักษะที่สำคัญ ที่ได้จากการเล่น ปิงปอง คือ ทักษะความคิดที่จะช่วงส่งเสริมในการพัฒนาสมอง รวมถึงการใช้สมาธิ ในการแข่งขัน

-ช่วยด้านจิตใจและอารมณ์ทำให้เกิดความเร้าใจ เพราะ การเล่น ปิงปอง เป็นกีฬาที่เกิดความเร้าใจอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีการกระตุ้นจิตใจอยู่เสมอ แถมยังทำให้ร่างกายมีความ กระปรี้กระเปร่า

ประโยชน์ของกีฬาเทเบิลเทนนิส

ประโยชน์ของกีฬาเทเบิลเทนนิส ณ ปัจจุบัน กีฬาปิงปองเริ่มได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้น เป็นกีฬาที่ใช้ทักษะในการเล่น หลากหลายทั้ง ร่างกาย สติปัญญา ประสาทสัมผัส และ ไหวพริบ สิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ต้องใช้ในการเล่นกีฬาปิงปอง

-ช่วยเสริมกล้ามเนื้อ ความยืดหยุ่น ให้กับร่างกาย การเล่นกีฬาปิงปอง เป็นกีฬาที่ต้องเคลื่อนไหวกล้ามเนื้อแทบทุกส่วน สำหรับมือใหม่แน่นอน

-ช่วยพัฒนาในการฝึกสมาธิ แน่นอนว่าทักษะที่สำคัญ ที่ได้จากการเล่น ปิงปอง คือ ทักษะความคิดที่จะช่วงส่งเสริมในการพัฒนาสมอง รวมถึงการใช้สมาธิ ในการแข่งขัน

-ช่วยด้านจิตใจและอารมณ์ทำให้เกิดความเร้าใจ เพราะ การเล่น ปิงปอง เป็นกีฬาที่เกิดความเร้าใจอยู่ตลอดเวลา ทำให้มีการกระตุ้นจิตใจอยู่เสมอ แถมยังทำให้ร่างกายมีความ กระปรี้กระเปร่า